หลายคนยังคงเข้าใจผิดในการเล่นหุ้นแนวเทคนิค โดยคิดไปเองว่ากราฟสามารถบอกอนาคตได้ เราจึงยังคงได้ยินคำถามประเภทที่ว่า "หุ้นตัวนี้มันจะไปได้ไกลถึงไหน","หุ้นตัวนั้นจะร่วงไปและหยุดที่ราคาเท่าไหร่" ซึ่งจริงๆแล้วผู้ที่ตอบก็คงได้เพียงคาดการณ์จากการวิเคราะห์จากกราฟหุ้นเท่านั้น โดยกราฟเป็นเพียงตัวบอกถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งนักเล่นหุ้นแนวเทคนิคจะนำข้อมูลดังกล่าว ไปวิเคราะห์ต่อดดยการใช้เครื่องมือทางเทคนิคต่างๆ เช่น EMA(Exponential Moving Average), SMA(Simple Moving Average) , MACD (Moving Average Convergence & Divergence ), RSI (Relative Strength Index), STOCHASTIC(Stochastic Oscillator) เป็นต้น เพื่อการตัดสินใจในการซื้อ-ขายหุ้น
โดยวิเคราะห์แนวเทคนิคตั้งอยู่บนพื้นฐานหลัก 3 ข้อ คือ
1. ราคาของตลาดได้สะท้อนให้เห็นถึงข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว(The Market Discounts Everything) :
หลักข้อที่หนึ่งของการเล่นหุ้นแนวเทคนิคตั้งอยู่บนความเชื่อที่ว่า ราคาที่เราเห็นนั้นเป็นผลลัพธ์จากข้อมุลทุกอย่างเกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม ผลกระทบจากสงคราม/ภัยพิบัติ ค่าเงิน การซื้อขายหุ้นของกลุ่มคนบางกลุ่ม ความโลภ/ความกังวลของนักลงทุน ข่าววงใน และข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
2. ราคาจะเคลื่อนไหวแบบมีแนวโน้ม(Prices Move in Trends) :
ราคาที่เคลื่อนที่เป็นแนวโน้มนั้นมี 3 ลักษณะ คือ แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) แนวโน้มขาลง(Downtrend) และแนวโน้มแบบวิ่งออกด้านข้าง(Sideway) โดยราคาจะเคลื่อนไหวไปตามแนวโน้มใดแนวโน้มหนึ่ง
3. ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเสมอ (History Always Repeats Itself) :
การวิเคราะห์แนวเทคนิคเชื่อว่า ราคาจะแสดงออกมาในรูปแบบที่ซ้ำเดิม โดยมองว่านักลงทุนมักจะมีพฤติกรรมในการซื้อ-ขายแบบเดิมๆ ดังนั้นในรูปแบบกราฟในปัจจุบันและอนาคตจึงมีโอกาสกลับมาคล้ายกับรูปแบบกราฟเดิมในอดีต
http://www.bidschart.com/
http://www.bidschart.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น